วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2557

กลียุค




กรณีย์ที่ 1จากกรณีพบศพ นายภานุวัตร ศรพรหม นางเยาวลักษณ์ ศรพรหม และนายสอง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี พ่อแม่และบุตรชายคนเล็ก ถูกยิงเสียชีวิตภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านพักภายในหมู่บ้านเมลาวิลล์ ถนนเสมา-ฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจเป็นการก่อเหตุของนายสอง บุตรชาย ที่เกิดความเครียดจากการถูกพ่อแม่ดุด่าเป็นประจำ เนื่องจากติดเล่นเกมจนทำให้ผลการเรียนตกต่ำ จึงใช้อาวุธปืนยิงพ่อแม่จนเสียชีวิต และยิงตัวเองตายตาม เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 10 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้นำตัวนายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ลูกชายคนโตของผู้ตาย ไปสอบปากคำที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ขณะที่เดินทางมารับศพพ่อแม่และน้องชายที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อจะนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
กรณีย์ที่ 2 (5 เม.ย.) ความคืบหน้าคดีฆ่าโหดครอบครัว หอมชงคาบ้านพักย่านหลักสอง มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย คือ พ.อ.วิชัย หอมชง อายุ 63 ปี ข้าราชการบำนาญ กรมแพทย์ทหารบก นางวนิดา หอมชง อายุ 57 ปี ครูโรงเรียนราชวินิตประถมบางแค และ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ หอมชง หรือหมวดเติ้ล อายุ 27 ปี นรต.รุ่น 66 พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ทั้งนี้หลังเกิดเหตุตำรวจได้ควบคุมตัวนายกิตตินันท์ หอมชง หรือเต้ย อายุ 22 ปี ลูกชายคนเล็กของครอบครัว ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ มาสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายกิตตินันท์ถูกสอบปากคำอย่างหนักตลอด 2 คืนที่ผ่านมา นายกิตตินันท์ก็ยอมเปิดปากรับสารภาพว่าได้ร่วมกับหนุ่มคู่ขา ชื่อ นายกอล์ฟ วางแผนจ้างวานเพื่อนอีก 2 คนให้บุกเข้าไปยังบ้านหลังดังกล่าวเพื่อก่อเหตุยิงพ่อ แม่ และพี่ชายตนเองจนเสียชีวิต เพราะต้องการมรดกทั้งหมด อีกทั้งยังรู้สึกว่าพ่อ แม่ ลำเอียงรักลูกไม่เท่ากัน โดยพ่อแม่ให้ความรักกับ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ หรือหมวดเติ้ล พี่ชายตนมากกว่า จึงรู้สึกเก็บกด
   

    
2 ทิโมธี 3:1-5
แต่จงเข้าใจข้อนี้   คือว่าในสมัยจะสิ้นยุคนั้น   จะเกิดเหตุการณ์กลียุค 2เพราะมนุษย์จะเห็นแก่ตัว   เห็นแก่เงิน   เย่อหยิ่ง   ยโส   ชอบด่าว่า   ไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา   อกตัญญู   ไร้ศีลธรรม 3ไร้มนุษยธรรม   ไม่ให้อภัยกัน   ใส่ร้ายกัน   ไม่ยับยั้งชั่งใจ   ดุร้าย   เกลียดชังความดี 4ทรยศ   มุทะลุ   หัวสูง   รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า 5ถือศาสนาแต่เปลือกนอก   ส่วนแก่นแท้ของศาสนาเขาไม่ยอมรับ”

อารัมภบท
พระวจนะของพระเจ้าสอนเราสองประเด็นคือ(1) สมัยสิ้นยุค และ (2)เหตุการณ์กลียุค ความจริงคำสอนเรื่อง “กลียุค”นั้นมีคำสอนหรือคำพยากรณ์อื่นๆมาก่อนหน้านี้อีกมาก ท่านเปาโลได้สื่อความหมายของกลียุคในแง่ของเหตุการณ์ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า “time of stress” “ยุคที่ตึงเครียด” ภาษากรีกใช้คำว่า “เอสคาโธส”มีความหมายถึงวาระสมัยจะสิ้นยุค ช่วงเวลาระหว่างการเสด็จมาครั้งแรกและการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซู
            คำว่า “กลี”มาจากรากศัพท์ในภาษาบาลีว่า “เลว หรือ ชั่ว”และคำว่า “กลียุค”มีความหมายว่า “ยุคแห่งความย่อยยับ,ความวิบัติ,ความพินาศ,ความหายนะ พจนานุกรมฉบับราชบันฑิตยสถานให้ความหมายว่า “กลียุค(กะลี-) น.ชื่อยุคที่ 4 ของจตุรยุคตามคติของพราหมณ์ ยุคนี้ธรรมะของมนุษย์จะลดลงเหลือ 1 ใน 4 ส่วน”
            จากกรณีย์ของคดีฆาตกรรมสองคดีสองเดือนติดกันในปี 2557 คือคดีแรกเกิดเมื่อ 9 มีนาคม 2557 และอีกคดีคล้ายกันเกิดเมื่อ 5 มีนาคม 2557 ย่อมประจักษ์พยานถึงการเริ่มต้นของเหตุการณ์ “กลียุค”ในแง่ของ “ไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา   อกตัญญู   ไร้ศีลธรรม” จากสาเหตุที่มนุษย์ไม่มีศีลธรรมคอยขัดเกลากมลสันดานการกระทำผิดอันรุนแรงจึงเกิดขึ้น
            ในบัญญัติ 10 ประการของโมเสสบัญญัติข้อที่ 5 “12“จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า   เพื่ออายุของเจ้าจะได้ยืนนานบนแผ่นดิน   ซึ่งพระเจ้าของเจ้าประทานให้แก่เจ้า” บิดามารดานั้นได้รับการยกย่องเป็นลำดับรองลงมาจากพระเจ้าตั้งแต่ครั้งโบราณหลายพันปีมาแล้วในฐานะของบุพการีผู้มีอุปการะคุณแก่บุตรและเป็นปูชนียบุคคลที่บุตรต้องนบนอบคารวะ  แม้แต่กฎหมายก็ไม่อนุญาตให้บุตรฟ้องร้องบิดามารดา “ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๕๖๒ บัญญัติไว้ว่า  " ผู้ใดจะฟ้องบุพการีของตนเป็นคดีแพ่งหรืออาญาไม่ได้   แต่เมื่อผู้นั้นหรือญาติสนิทผู้นั้นร้องขอ  อัยการจะยกคดีขึ้นว่ากล่าวก็ได้ "  โดยหลักธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่โบราณของคนไทย  ลูก หลาน เหลน(ผู้สืบสันดาน)ต้องให้ความคารพต่อบิดามารดา ปู่ย่าตายาย หรือทวด    (ผู้บุพการี) กฎหมายจึงห้ามมิให้ผู้สืบสันดานฟ้องบุพการีไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่งหรืออาญา แต่แก้ไขได้โดยร้องขอให้อัยการดำเนินการแทน เช่น บุตรจะไปฟ้องบิดามารดาเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาไม่ได้  ในกรณีเป็นบิดา  บิดาต้องเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมาย(ไม่ว่าจะจดทะเบีนสมสกับมารดาหรือ  จดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร) ตัวอย่างเช่น นายแดงเป็นบุตรของนายดำและนางขาว  โดยนายดำและนางขาวไม่จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย  นายแดงจึงเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของนางขาวเท่านั้น  ส่วนนายดำไม่ใช่บิดาตามกฎหมายของนายแดง นายแดงจึงมีอำนาจฟ้องนายดำได้  ไม่เป็นคดีอุทลุม  (ฎีกาที่ ๓๐๑๙/๒๕๔๑)
            ดังนั้นปรากฏการณ์ที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันคือลูกชายได้ออกมาสัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยรอยยิ้มและยอมรับว่าฆ่าพ่อแม่และพี่ชาย สื่อมวลชนก็กระทำผิดจรรยาบรรณที่ปล่อยให้ภาพและเสียงออกไปสู่สาธารณะชนเสมือนหนึ่งการส่งเสริมการกระทำเช่นนั้น
               ศีลธรรมของมนุษย์ตกต่ำ “มีศาสนาแต่เปลือกนอก”ศาสนาเหลือแต่การประกอบพิธีกรรมบวงสรวง ศาสนาหากินกับประชาชนกอบโกยอามิสสิ้นจ้าง อ้างพระเจ้าดินฟ้าเทวดาสวรรค์นรกแต่ไม่สอนแก่นแท้ของสัจจะธรรมไม่สอนความจริง มนุษย์นับถือลัทธิศาสนา “วัตถุนิยมและบริโภคนิยม”อยากได้มากๆแย่งเอา ชิงเอา โลภเอา หรือสุดท้ายฆ่าเอา
            ศาสนาแท้คือ “การบริโภคอาหารฝ่ายวิญญาณ”ทุกวัน เราต้องกล้าที่จะประกาศความรักของพระคริสต์ ยอห์น 3:16 16เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก   จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์   เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ   แต่มีชีวิตนิรันดร์”  ประกาศความรักต่อโลกให้โลกเชื่อและวางใจในพระบุตรองค์เดียวของพระองค์คือพระเยซูคริสต์ โลกจึงจะไม่พินาศและรอดพ้นจาก “กลียุค”ได้ เขาโฆษณาเหล้าเบียร์สารพัด ทำไมเราจะโฆษณาเรื่องข่าวประเสริฐไม่ได้ เพราะเราอายเรื่องศาสนาอีกไม่ช้าสังคมจะจมดิ่งลึกลงไปมากกว่านรก
   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น